ประเด็นร้อน

เชือดคนดังพัวพัน 'สหกรณ์คลองจั่น'

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 08,2017

 - - สำนักข่าว เดลินิวส์ วันที่ 8.06.60 - -

          
วรลักษณ์ อโนทัยสินทวี รายงาน
          
มหากาพย์โกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำกัด ที่เดินหน้ามายาวนาน นำโดย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ต้นเรื่องอันฉาวโฉ่ที่อยู่ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำกลางบางขวางนับเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายคดี ส่วนหนึ่งของปัญหาสืบเนื่องจากการยักยอกฉ้อโกงสหกรณ์คลองจั่นเป็นที่ทราบกันว่ามีชื่อของบุคคลดังเข้าไปพัวพันหลายคนที่เป็นข่าวโด่งดังสุดคือกรณีวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับเช็คบริจาคจำนวนมหาศาลและอีกหนึ่งบุคคลดังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกตัวเข้าสอบเนื่องจากเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินโยงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ก็คือ "อนันต์ อัศวโภคิน" เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ พ่วงศิษย์เอกวัดพระธรรมกาย
          
นายอนันต์ถูกตั้งข้อกล่าวหาฐานสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตามมาตรา 5 และ 9 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนนัดหมายพร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอเวลา 60 วันรวบรวมเอกสารหลักฐานประกอบการชี้แจง
          
เพียงแค่เริ่มต้นมีชื่อพัวพันคดีฟอกเงินก็ส่งผลให้นายอนันต์ต้องไขก๊อกลงจากตำแหน่งบริหารหลายบริษัท
          
ปฐมบทนำสู่มติให้ดำเนินคดีกับนายอนันต์มาจากการที่ดีเอสไอแกะรอยคดียักยอกทรัพย์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ กระทั่งพบว่านายศุภชัยสั่งจ่ายเช็คหลายฉบับรวม 275 ล้านบาทไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 จำกัดและเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อทรัพย์สินที่เป็นที่ดินของบริษัทจำนวน 3 แปลง ในจำนวนนี้เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 31344 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณใกล้เคียงวัดพระธรรมกาย โดยเป็นการซื้อในนามสหกรณ์ฯ แต่นายศุภชัยส่งคนของตัวเองไปเป็นกรรมการบริษัทและมีหนังสือกำหนดให้อำนาจบริหารบริษัทอยู่ภายใต้การควบคุมของสหกรณ์ฯ ที่ตัวเองดูแลอยู่
          
ต่อมามีมติคณะกรรมการให้นำที่ดินดังกล่าวไปขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยที่ดินผืนดังกล่าวได้ขายให้กับนายอนันต์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ในขณะนั้น ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตคือมีการนำที่ดิน ไปขายต่อให้นายอนันต์ หลังมีมติให้ ขายเพียง 2 วัน (มีมติให้นำที่ดินไปขายวันที่ 21  ธ.ค. 54  ทำสัญญาซื้อขายให้นายอนันต์วันที่ 23  ธ.ค. 54) โดยขายไปในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93,781,000  บาท ขณะที่ราคาประเมินขณะนั้นคิดตารางวาละ  15,000  บาท ดังนั้น ราคาที่ดินจะอยู่ที่ราว 281  ล้านบาท ราคาที่ขายไปจึงต่ำกว่าราคาประเมินถึง  3  เท่า นอกจากนี้ยังตรวจสอบไม่พบหลักฐานการจ่ายเงินให้กับบริษัท เอ็ม-โฮมฯ
          
หลังจากนั้นพบว่านายอนันต์ได้ขายที่ดินดังกล่าวไปให้กับบุคคลอื่นในราคาประมาณ 492 ล้านบาท เงินที่ได้ถูกนำไปบริจาคเข้ามูลนิธิคุณยายจันทร์ขนนกยูง ซึ่งมีพระธัมมชโยเป็นองค์อุปถัมภ์จำนวน 303 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสืบสวนยังพบหลักฐานสำคัญว่านายศุภชัยทำหนังสือฉบับหนึ่งลงวันที่ 23 ธ.ค. 54 (วันเดียวกันกับการทำสัญญาซื้อขายที่ดินให้นายอนันต์) แสดงเจตนาถวายที่ดินดังกล่าวให้กับพระธัมมชโยโดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในชื่อนายอนันต์ ซึ่งพระธัมมชโยมอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสารขณะที่นายศุภชัยไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเป็นการดำเนินการผ่านการขายให้นายอนันต์แทน
          
พฤติกรรมดังกล่าวคณะพนักงานสอบ สวนมองว่าเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงินที่ดีเอสไอต้องเรียกนายอนันต์มาชี้แจงโดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันดีเอสไอมีหลักฐานพิสูจน์ชัดว่าเป็นการร่วมกันฟอกเงินโดยจะเร่งพิสูจน์เส้นทางการเงินว่ามีการซื้อขายและจ่ายเงินกันจริงหรือไม่เพราะอาจเป็นการทำสัญญาลวง อีกทั้งปัจจุบันที่ดินในความครอบครองของเอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 อีกส่วนหนึ่งถูกขายต่อไปให้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งในชั้นสอบสวนพบว่าเป็นการอนุมัติซื้อขายโดยคณะกรรมการบริหารสหกรณ์คลองจั่นฯ ชุดใหม่
          
จะเห็นว่าเรื่องราวซ้อนกันอยู่ 2 เหตุการณ์คือ นายศุภชัยทำเอกสารยกที่ดินแปลงนั้นให้พระธัมมชโยโดยถ่ายโอนที่ดินให้กับนายอนันต์ ดังนั้นมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายอนันต์ถือครองทรัพย์สินแทนพระธัมมชโยและอีกประเด็นที่นายอนันต์จะต้องชี้แจงว่ามีการจ่ายเงินซื้อที่ดินกันจริงหรือไม่และถ้าจ่ายจริงเงินไหลไปที่ไหน
          
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 ซึ่งทำงานร่วมกับดีเอสไอในการรวบรวมพยานหลักฐานคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ เผยว่า พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเป็นสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งพบพิรุธ ส่วนที่มีการทำสัญญาซื้อขายกับหนังสือบริจาคจะมีจริงหรือไม่ต้องรอผลสอบสวนก่อน โดยเฉพาะมีเจตนาใดจึงทำหนังสือ 2 ชุดพร้อมกัน
          
นายอนันต์เริ่มศรัทธาและเข้ามาวัดพระธรรมกายเมื่อปี 2538 โดยการชักชวนของคนใกล้ชิด บท บาทในวัดพระธรรมกายนายอนันต์เป็นทั้งศิษย์รักของพระธัมมชโยและเป็นหนึ่งในทีมเสนาธิการของวัดที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสภาธรรมกาย และประชุมสำคัญ ๆ จึงไม่แปลกที่พระธัมมชโยจะเลือกให้ถือครองที่ดินแทน เส้นทางการทำผิดของนายอนันต์จะเชื่อมโยงไปถึงใครอีกดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่เพราะคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินสหกรณ์ฯ ถูกแยกย่อยออกเป็นหลายคดีปัจจุบันรวมแล้วกว่า 15 คดี
          
หลังจากนี้คงต้องจับตาว่านอกเหนือจากนายอนันต์แล้วจะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกกี่รายที่เข้าไปพัวพันกับการกระทำผิดของนายศุภชัยและสหกรณ์ดัง.